ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ
เราเชื่อว่าทุกคนพอจะรู้ประโยชน์และข้อดีของการอ่านหนังสือกันอยู่แล้ว แต่ที่ติดกันอยู่นี่ก็คงเป็นความขี้เกียจ หรือบางคนก็มีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำ แต่นับจากนี้ต่อไป อยากให้ลองอ่านหนังสือกันให้มากขึ้น แล้วคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเองอย่างคาดไม่ถึง อะไรที่ไม่เคยได้รู้ก็ได้รู้ สถานที่ไม่เคยได้ไปก็จะได้เห็น มาเปิดโลกกว้างไปกับหนังสือดีกว่าคะจริง ๆ แล้วหนังสือก็เปรียบเสมือนปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตเรา เพราะถือเป็นอาหารสมองที่จะช่วยบำรุงความรู้ และประเทืองปัญญาให้เราได้เป็นอย่างดี แต่พอได้เห็นสถิติการอ่านหนังสือของคนไทยแล้วก็ต้องถอนหายใจดังเฮ้อ ก็ตัวเลขสถิติที่ออกมามันช่างน้อยแสนน้อยเสียจนน่าใจหาย วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเสนอ 10 ข้อดีของการอ่านมาให้ได้รู้กัน เผื่อจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยอยากอ่านหนังสือกันมากขึ้นค่ะ
1.กระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องการการออกกำลัง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอ
2.ลดความเครียด
ช่วยลดความเครียดได้ด้วย
3.ให้ความรู้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือ เราก็จะได้ความรู้
5.ช่วยกระตุ้นความจำ
เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมอง สมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมอง ที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูล
6.บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์
ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำ หรือมีปมที่ต้องคิดตาม สมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้น ๆ และหาทางออกด้วยต
7.ฝึกสมาธิ
หากอยากได้สมาธิ หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกาย ก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิ แล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจ
8.พัฒนาทักษะการเขียน
เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคน แม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตาม จะต้องมีนักเขียนในดวงใจ ที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียน
9.ให้ความสงบ
ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า นอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้ว การอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วย
10.ให้ความบันเทิง
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่ จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ไอเดียดี ๆ ทักษะภาษา หรือแม้แต่หนังสือภาพการ์ตูนที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลย ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้น หากวัน ๆ หนึ่งคุณไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไร ก็ลองหาหนังสือที่คิดว่าน่าสนใจ หรือเริ่มอ่านข้อความบนถุงกระดาษ หรือบนฉลากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันก่อนก็ได้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น